ค่าไฟแพงหนุน โซลาร์ฯ ขยายตัว30-40% เทรนด์ใหม่ภาคอสังหาฯแห่ติดดึงลูกค้า

ค่าไฟแพงหนุน โซลาร์ฯ ขยายตัว30-40% เทรนด์ใหม่ภาคอสังหาฯแห่ติดดึงลูกค้า พบเทรนด์ใหม่มาแรงภาคอสังหาริมทรัพย์แห่ติดตั้งให้กับบ้านที่อยู่อาศัยใหม่ในโครงการบ้านจัดสรรเกือบทุกราย ดึงลูกค้ามุ่งสู่พลังงานสะอาด ประหยัดไฟ รองรับWFH รถอีวีในอนาคต แนะรัฐเร่งยกระดับการเรียนสายอาชีวะป้อนแรงงานกลุ่มโซลาร์ฯหลังทิศทางขาดแคลนหนัก 1-2 แสนคน

นายพลกฤต กล่ำเครือ นายกสมาคมผู้ประกอบการและช่างพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า จากแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัตเ(เอฟที) ปรับสูงขึ้นปี 2565 ซึ่งล่าสุดส่งผลให้ค่าไฟฟ้ารวมที่ประชาชนต้องจ่ายแตะ 4 บาท/หน่วยและมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกในช่วงที่สิ้นปีนี้ทำให้การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคาที่อยู่อาศัย(โซลาร์รูฟท็อป) ทั้งประเภทบ้าน อาคารโรงงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเฉลี่ยโตจากต้นปี 30-40% โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้หันมาติดตั้งให้กับบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรรเกือบทุกรายทำให้บ้านใหม่ๆ จะมีการติดตั้งแผงโซลาร์ฯให้พร้อม

“ โครงการบ้านพักที่อยู่อาศัยหันมาติดตั้งโซลาร์ฯ มากขึ้นและกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคซื้อบ้านใหม่จะได้บ้านติดโซลาร์ฯให้ด้วยเลย เพื่อมุ่งสู่พลังงานสะอาด ทำให้ลูกค้าไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะการติดตั้งจะมีมาตรฐานรองรับทำให้บ้านยุคใหม่จะต้องมีโซลาร์ฯ และแนวโน้มจะยิ่งมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์การประหยัดค่าไฟฟ้า และลดโลกร้อน โดยเฉพาะปัจจุบันการทำงานอยู่บ้าน(Work from Home:WFH) กลายเป็นเรื่องปกติแล้ว ประกอบกับแนวโน้มการใช้รถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)จะมีมากขึ้น”นายพลกฤตกล่าว

สำหรับการติดตั้งในภาคโรงงาน อาคารพาณิชย์ต่างๆ ยังคงเพิ่มขึ้นเช่นกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายประกอบกับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการติดตั้งโซลาร์ฯของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)จะหมดลงในปีนี้ เช่นเดียวกับการใช้แผงโซลาร์ฯเพื่อการเกษตร เช่น การสูบน้ำ ล้วนหันมาใช้โซลาร์ฯมากขึ้น จึงถือเป็นทิศทางที่ไปต่อ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าแผงโซลาร์ฯมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจากความต้องการใช้ทั่วโลกที่ขยายตัว ประกอบค่าเงินบาทของไทยอ่อนค่าลง
ขณะที่ไทยนำเข้าหลักจากจีนโดยล่าสุดเมื่อ 1 พ.ค.มีการปรับขึ้น 3% ส่วนระยะต่อไปคงต้องติดตามราคาใกล้ชิดโดยมีแนวโน้มจีนจะเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้นจะส่งผลให้แผงมีราคาที่ไม่สูงขึ้นจนเกินไปแต่จะหวังให้ราคาลดลงไม่น่าเกิดขึ้นง่ายนัก แต่กรณีการขาดแคลนยังไม่พบสัญญาณใดๆ ซึ่งปัจจุบันค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้งโซลาร์ฯ 1 วัตต์เฉลี่ยจะอยู่ราว 12 บาท/วัตต์ และโดยส่วนใหญ่จะมีการติดตั้งอยู่ที่ประมาณ 600 วัตต์

นายพลกฤต กล่าวว่า จากแนวโน้มการติดตั้งโซลาร์ฯมีมากขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตโดยภาครัฐเองมีแผนส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์ฯภายใต้แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี)ระยะ 20 ปีโดยเบื้องต้นมีการปรับแผนระยะ 10 ปี(ปี 2564-73 )จะมีการรับซื้อไฟจากโซลาร์ฯรวมอยู่ที่ 4,455 เมกะวัตต์ทำให้แนวโน้มแรงงานในสาขาดังกล่าวจะขาดแคลนมากยิ่งขึ้นจากทิศทางการขาดแคลนช่วง 1-2 ปีนี้จะอยู่ที่ราว1-2แสนคน ดังนั้นจึงต้องการให้ภาครัฐหันมาส่งเสริมการจ้างงานในกลุ่มนี้ให้มากโดยการยกระดับการเรียนในสายอาชีวะให้มีการรองรับตลาดโซลาร์ฯ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Mgronline.com

Share this article:
เรื่องที่คุณอาจจะสนใจ
ยอดนิยม

what you need to know

in your inbox every morning