10 เทรนด์อสังหาฯ ปี 65 บ้านประหยัดพลังงานครองแชมป์
บริษัท เทอร์ร่า บีเคเค บริษัทอสังหาฯ ได้เผยถึงแนวโน้มอสังหาฯ ปี 2565 ว่ามีหลายสิ่งที่น่าสนใจ รวมถึงตลาดที่รองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วย โดย 10 เทรนด์อสังหาฯ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 มีดังนี้
เทรนด์อสังหาฯ ปี 2565
เทรนด์การพัฒนาบ้านประหยัดพลังงาน
จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมาผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับเรื่องประหยัดพลังงานมากขึ้น ดังนั้น เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานหรือลดค่าใช้จ่ายจะเข้ามามีส่วนสำคัญ และได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น
เทรนด์ระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัจฉริยะ
ระบบรักษาความปลอดภัยแบบอัจฉริยะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพราะต้องการลดกำลังคน และประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยที่ดีกว่า ตัวอย่างเช่น พนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) เดิน 24 ชั่วโมง ซึ่ง รปภ. 2-3 คนต่อบ้าน 300 หลัง หากเกิดเหตุขึ้นไม่สามารถเตือนภัยได้ทันเวลา ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ก็มีแนวโน้มของการโจรกรรมที่มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้นตามไปด้วย
เทรนด์การออกแบบบ้านที่เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติ (Blended environment)
Blended environment ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันคนใช้ชีวิตในบ้านมากกว่านอกบ้าน เนื่องจากกังวลติดโรคระบาด ผนวกกับคนทำงานที่บ้านมากขึ้น จึงต้องการบ้านที่มีดีไซน์ผสมผสานกับธรรมชาติ ผู้คนโหยหาธรรมชาติ หรือแม้แต่อาคารสำนักงานก็ให้ความสำคัญกับเทรนด์นี้ ทำให้เกิดเทรนด์ Indoor Plants
เทรนด์เมตาเวิร์ส (Metaverse)
คาดว่าอีก 3 ปีจากนี้โลกเสมือนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ณ ตอนนี้ยังเป็นเพียงลูกเล่นทางการตลาด (Gimmick) ที่ตอบโจทย์เด็กเจนอัลฟา (อายุ 9-10 ปี) ในการเล่นเกมเท่านั้น ใน 5 ปีข้างหน้าเด็กกลุ่มนี้จะมีอายุ 15 ปี แล้วกลายเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ที่พร้อมทำงานหาเงินในโลกเสมือน
อนาคต “เมตาเวิร์ส” จะเป็นส่วนหนึ่งในการเปิดประสบการณ์ในการเข้าชมโครงการบ้านและคอนโด ทั้งของแนวราบและแนวสูง ทำให้ผู้บริโภคสามารถสัมผัสประสบการณ์ได้ใกล้เคียงของจริง ถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ประกอบการอสังหาฯ ทำให้ไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างเซลล์แกลลอรี่ แค่ทำโครงการในโลกเสมือนออกมาให้คนได้เข้าไปสัมผัสและจองดูได้สะดวกรวดเร็วขึ้น ที่สำคัญสามารถลดต้นทุนการทำเซลล์แกลลอรี่ที่มีมูลค่าถึง 10-30 ล้านบาทได้
เทรนด์ Virtual Reality (VR) , Augmented Reality (AR)
เทคโนโลยีโลกเสมือนมีบทบาทมากขึ้นกว่าช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพราะราคาถูกลง มีเครื่องมือฟรีออกมาให้ทดลองใช้ และยังเชื่อมโยงกับเมตาเวิร์สได้ จึงทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ หลายรายเริ่มดีไซน์บ้านเพื่อตอบโจทย์การใช้เทคโนโลยี AR & VR หรือ Digital Twin มากขึ้น
เทรนด์การชำระเงินด้วยคริปโตฯ
คริปโตฯ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เด็กรุ่นใหม่โดยเฉพาะเจนอัลฟาจะทำทุกอย่างบนโลกอินเทอร์เน็ต และที่สำคัญคนเริ่มยอมรับการใช้เทคโนโลยีเพื่อชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งจากเทรนด์ดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ เปิดช่องให้มีการชำระเงินด้วยคริปโตฯ เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น และกลุ่มเจนอัลฟายังเป็นกลุ่มที่จะเข้ามาแทนกลุ่มเบบี้บูมและเจนเอ็กซ์ในอนาคตด้วย
เทรนด์ Universal design
Universal design เป็นหลักการออกแบบเพื่อให้ทุกคนที่อยู่ในสังคม สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่และเท่าเทียมกัน โดยเจนซีจะให้ความสำคัญกับ Universal design มากกว่าเจนอื่น ๆ เพื่อให้คนทุกเจนมีความเทียบเท่ากับกลุ่มเบบี้บูม ไม่ใช่แค่รองรับกลุ่มผู้สูงวัยเท่านั้น ฉะนั้นโครงการที่เกิดใหม่ต้องให้ความสำคัญต่อเทรนด์นี้มากขึ้น
เทรนด์ Public space for New Gen
เทรนด์พื้นที่สาธารณะสร้างสรรค์ทางความคิด เป็นเรื่องใหม่ที่เข้ามาในเมืองไทย เพราะหลังเกิดโควิด-19 ทุกคนเบื่อการอยู่บ้าน จุดนี้เองที่ทำให้เกิดกระแส “เซิร์ฟสเก็ตฟีเวอร์” สถานที่สาธารณะต่าง ๆ เปิดพื้นที่เพื่อ ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบทำกิจกรรมข้างนอก เทรนด์นี้อสังหาฯ ประเภทรีเทล ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือแม้แต่ส่วนกลางของคอนโดมิเนียมก็สามารถนำเอามาใช้พัฒนาพื้นที่เพื่อดึงคนรุ่นใหม่ได้ และยังเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่สำหรับการสนับสนุนไอเดียสร้างสรรค์ และการแสดงออกต่าง ๆ
เทรนด์ Green material
การใช้วัสดุธรรมชาติหรือการลดทำลายสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโลกร้อน จึงนิยมใช้วัสดุธรรมชาติเพื่อสะท้อนตัวตนมากกว่าคำนึงแบรนด์ ดังนั้น Green material จึงเป็นเทรนด์ที่เป็นจุดขายที่ไม่ควรมองข้าม
เทรนด์บริการ 24 ชั่วโมง ด้วยระบบอัตโนมัติ
มาพร้อมกับเทรนด์ Work from Anywhere ที่บรรดาอสังหาฯ อาจต้องอาศัยเทคโนโลยีและบริการ 24 ชั่วโมงด้วยระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยให้บริการ โดยเฉพาะกับกลุ่มดิจิทัลโนแมด ที่ใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อม ๆ กัน
Source: https://www.smartfinn.co.th/article/real-estate-trend-2022