Proptech เทรนด์แห่งอนาคตของตลาดที่อยู่อาศัย

Proptech สร้างประโยชน์ ทั้งต่อผู้บริโภค และผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย

Proptech ช่วยอำนวยควำมสะดวกต่อผู้บริโภค ตั้งแต่กำรค้นหำที่อยู่อำศัย กำรซื้อ/เช่ำ/ลงทุน กำรอยู่อำศัย ไปจนถึงบริกำรหลังกำรขำย ขณะเดียวกัน Proptech ก็เข้ำมำมีบทบำทช่วยเพิ่มประสิทธิภำพในกำรประกอบธุรกิจของผู้ประกอบกำรพัฒนำที่อยู่อำศัยมำกขึ้นด้วย ทั้งกำรทำกำรตลำดนำเสนอโครงกำรผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ รวมถึงใช้บริกำรแพลตฟอร์มตัวแทนจับคู่นำยหน้ำกับผู้ประกอบกำร นอกจำกนี้ ยังพัฒนำสมำร์ตโฮม และใช้ แอปพลิเคชันบริหำรจัดกำรสิ่งอำนวยควำมสะดวกภำยในโครงกำรที่อยู่อำศัยอีกด้วย

การทาธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ และสังคมผู้สูงอายุ หนุนการนา Proptech มาใช้มากขึ้น

กำรทำธุรกรรมด้ำนที่อยู่อำศัยผ่านทำงออนไลน์ โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง ในช่วง COVID-19 ที่เร่งตัวขึ้น เป็นปัจจัยผลักดันให้ผู้ประกอบกำรพัฒนำที่อยู่อำศัยนำ Proptech มำใช้หลำกหลำยด้ำน และครอบคลุมทั้ง Ecosystem ของตลำดที่อยู่อำศัยมำกขึ้น ตั้งแต่กำรค้นหำที่อยู่อำศัย กำรเข้าชมโครงกำรแบบ Virtual viewing กระบวนกำรซื้อ กำรทำกำรตลำดเชิงรุกผ่านแพลตฟอร์มต่ำง ๆ ตลอดจนกำรทำธุรกรรมทำงกำรเงินออนไลน์ อย่ำงไรก็ตำม ข้อจำกัดของกำรทำธุรกรรมด้ำนที่อยู่อำศัยผ่านทำงออนไลน์ยังมีอยู่มำก โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง ด้ำนกฎระเบียบ ซึ่งหำกมีกำรผ่อนคลำยกฎระเบียบในกำรทำธุรกรรมมำกขึ้น ก็จะยิ่งหนุนให้กำรทำธุรกรรมด้ำนที่อยู่อำศัยมีแนวโน้มที่จะเป็นกำรทำธุรกรรมผ่านทำงออนไลน์แบบ End-to-end transaction1 ผ่าน Proptech ได้ในระยะข้างหน้ำ

นอกจำกนี้ กำรเข้าสู่สังคมผู้สูงอำยุเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หนุนให้กำรใช้ Proptech มีแนวโน้มขยำยตัวมำกขึ้น โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งสมำร์ตโฮม เพื่อสร้ำงควำมควำมสะดวกสบำย เสริมสร้ำงสภำพแวดล้อมให้เหมำะสม และยกระดับควำมปลอดภัยสำหรับผู้สูงอำยุในด้ำนต่ำง ๆ โดยนำระบบอัตโนมัติ เซนเซอร์ และกำรแจ้งเตือนมำใช้ เพื่อตอบโจทย์กำรอยู่อำศัยมำกขึ้น

การนา Proptech มาแก้ปัญหาสาหรับผู้อยู่อาศัยได้อย่างเฉพาะเจาะจง จะช่วยสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

ควำมต้องกำรหรือปัญหำของผู้อยู่อำศัยแต่ละกลุ่มมีควำมแตกต่ำงกันไป ยกตัวอย่ำงเช่น กำรพัฒนำระบบอัตโนมัติ เซนเซอร์ และกำรแจ้งเตือนสำหรับผู้สูงอำยุ ก็จะมีควำมแตกต่ำงจำกครอบครัวที่มีเด็กเล็ก หรือสัตว์เลี้ยง ดังนั้น กำรวิเครำะห์ควำมต้องกำรหรือปัญหำในเชิงลึกของผู้อยู่อำศัย และใช้ Proptech มำตอบโจทย์ หรือแก้ปัญหำสำหรับผู้อยู่อำศัยได้อย่ำงเฉพำะเจำะจง ภำยใต้ Ecosystem และกฎระเบียบต่ำง ๆ จะช่วยสร้ำงควำมแตกต่ำงจำกผู้ประกอบกำรรำยอื่น ๆ และจะเป็นปัจจัยแห่งควำมสำเร็จในกำรขำยที่อยู่อำศัย ท่ามกลำงกำรแข่งขัน ในตลำดที่อยู่อำศัยที่ยังคงรุนแรงในระยะข้างหน้ำ

Proptech สร้างประโยชน์ต่อตลาดที่อยู่อาศัยอย่างไร ?

Proptech ช่วยอานวยความสะดวกต่อผู้บริโภค ตั้งแต่การค้นหาที่อยู่อาศัย การซื้อ/เช่า/ลงทุน การอยู่อาศัย ไปจนถึงบริการหลังการขาย ขณะเดียวกัน Proptech ก็เข้ามามีบทบาทช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยมากขึ้นด้วย โดย Property Technology (Proptech) คือ นวัตกรรม หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ซอฟต์แวร์, แพลตฟอร์ม, แอปพลิเคชัน, Digital solution ที่เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยอานวยความสะดวกในกิจกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งที่อยู่อาศัย และอสังหาริมทรัพย์ เชิงพาณิชย์ ตั้งแต่การก่อสร้าง การซื้อ/เช่า/ลงทุน การอยู่อาศัย การใช้พื้นที่ ไปจนถึงการบริหารจัดการ

ในส่วนของตลาดที่อยู่อาศัย Proptech เข้ามามีบทบาทช่วยอานวยความสะดวกต่อผู้บริโภค ตั้งแต่

1) การค้นหาที่อยู่อาศัย ในรูปแบบแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น การรวบรวมข้อมูลการประกาศขาย/ให้เช่าที่อยู่อาศัย ตัวแทนจับคู่นายหน้ากับผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย การทาการตลาดของผู้ประกอบการ รวมถึงการเข้าชมโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Virtual viewing

2) กระบวนการซื้อ/เช่า/ลงทุน ทั้งแพลตฟอร์มที่เป็นตัวแทนจับคู่ผู้ที่ต้องการซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัย กับเจ้าของที่อยู่อาศัย โดยไม่ผ่านนายหน้า การบริหารจัดการด้านการเช่า ไปจนถึงการอานวยความสะดวกในการทาธุรกรรมทางการเงิน เช่น การกู้เงิน การประเมินมูลค่าที่อยู่อาศัย

3) การอยู่อาศัย โดยเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมาร์ตโฮม เช่น ระบบอัตโนมัติ การสั่งการด้วยเสียง การควบคุมระบบต่าง ๆ ทั้งจากภายใน และภายนอกที่อยู่อาศัยผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ

และ 4) บริการหลังการขาย ทั้งการบริหารจัดการ สิ่งอานวยความสะดวกภายในโครงการที่อยู่อาศัย บริการซ่อมแซม บารุงรักษา ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ บริการทาความสะอาด รับ/ส่งพัสดุ ไปจนถึงประกันภัยที่อยู่อาศัย

ปัจจุบัน วงการ Proptech ในต่างประเทศมีความคึกคัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปี 2021 มีผู้ประกอบการ Proptech ด้านที่อยู่อาศัยถึง 1,340 ราย2 ตัวอย่างที่สาคัญ ได้แก่ Zillow ซึ่งเป็น แพลตฟอร์ม ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจร ทั้งบริการซื้อ/ขาย/เช่าที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการพิจารณาสินเชื่อ ที่มีการเชื่อมโยงผู้เล่นในตลาดหลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้เช่าที่อยู่อาศัย นักลงทุน ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัย และนายหน้า ทั้งนี้ Zillow เป็นแพลตฟอร์ม ที่มีการวิเคราะห์ Big Data และใช้ Artificial Intelligence (AI) คาดการณ์พฤติกรรมของซื้อ ผู้ขาย ผู้เช่าที่อยู่อาศัย และนักลงทุน รวมถึงมีการพัฒนาระบบการจับคู่ความต้องการที่อยู่อาศัย กับเจ้าของที่อยู่อาศัยได้เฉพาะเจาะจง ส่งผลให้ Zillow เป็นแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการใช้บริการเป็นลาดับต้น ๆ ในสหรัฐอเมริกา โดยมีอสังหาริมทรัพย์กว่า 135 ล้านรายการอยู่ในฐานข้อมูล มีผู้ชมเว็บไซต์ โดยเฉลี่ย 36 ล้านครั้ง/เดือน และมียอด ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันผ่าน Google Play มากกว่า 10 ล้านครั้ง 3 สาหรับตลาดที่อยู่อาศัยในไทยนั้น ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยก็มีการนา Proptech มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ และอานวยความสะดวกสาหรับผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้เช่าที่อยู่อาศัยบ้างแล้ว ทั้งการทาการตลาดนาเสนอ โครงการที่อยู่อาศัยผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ รวมถึงยังใช้บริการแพลตฟอร์มตัวแทนจับคู่นายหน้ากับผู้ประกอบการ เพื่อใช้บริการนายหน้าที่มีความเชี่ยวชาญในการขายโครงการที่อยู่อาศัย และมีฐานผู้ซื้อที่อยู่อาศัยเซกเมนต์ต่าง ๆ โดยผู้ซื้อ/ผู้เช่าที่อยู่อาศัยก็ได้มีการใช้แพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลการประกาศขาย/ให้เช่าที่อยู่อาศัย เป็นช่องทางในการค้นหาข้อมูลที่อยู่อาศัย ในทาเล และระดับราคาต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังพัฒนาสมาร์ตโฮม และใช้แอปพลิเคชันบริหารจัดการ สิ่งอานวยความสะดวกภายในโครงการที่อยู่อาศัยอีกด้วย ทั้งนี้การใช้ชีวิตประจาวันของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่หลากหลาย อีกทั้ง เทคโนโลยีบางกลุ่ม ยังมีความทับซ้อนกันกับ Proptech ส่งผลให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มให้ความสาคัญกับการขยายขอบเขตไปสู่การลงทุน หรือการสร้างความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการเทคโนโลยีอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ทาให้เกิดการผสมผสานนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Construction tech ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการก่อสร้างที่อยู่อาศัย Health & Wellness tech ที่ช่วยอานวยความสะดวกด้านสุขภาพสาหรับผู้อยู่อาศัย Internet of Things (IoTs) ที่เป็นองค์ประกอบสาคัญของสมาร์ตโฮมไปจนถึงฟินเทคที่จะมาช่วยอานวยความสะดวกในการชาระค่าที่อยู่อาศัย และค่าบริการต่าง ๆ เพื่อพัฒนา Digital solution ที่ช่วยอานวยความสะดวกสาหรับผู้อยู่อาศัยได้อย่างครบวงจร นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มนาเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์ Big Data ที่เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในเชิงลึก ของผู้อยู่อาศัย การประเมินราคา การวิเคราะห์โอกาสในการลงทุน ไปจนถึงการทาการตลาดไปยังผู้ซื้อที่อยู่อาศัยกลุ่มเป้าหมายในแพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยใช้เกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น รูปแบบที่อยู่อาศัย อายุ รายได้ ทาเล ระดับราคา เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงซื้อที่อยู่อาศัยกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันขายโครงการ ที่อยู่อาศัยได้มากขึ้นในระยะต่อไป

เทรนด์การใช้ Proptech เร่งตัวขึ้นจากปัจจัยใดบ้าง?

การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยาวนาน ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่เป็น New normal เป็นปัจจัย เร่งให้ Proptech เข้ามามีบทบาทในตลาดที่อยู่อาศัยมากขึ้น การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ต้นปี 2020 ส่งผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยอย่างมาก ทั้งกาลังซื้อที่หดตัวลงไปตามภาวะเศรษฐกิจ และข้อจากัดในการเยี่ยมชมโครงการที่อยู่อาศัยในช่วงที่การแพร่ระบาดเป็นไปอย่างรุนแรง ส่งผลให้ยอดขายที่อยู่อาศัยหดตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา สถานการณ์ดังกล่าว เป็นปัจจัยเร่งให้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยปรับกลยุทธ์ โดยส่วนใหญ่ นา Proptech มาใช้มากขึ้น เพื่อให้การดาเนินธุรกิจยังสามารถดาเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการทาการตลาดเชิงรุก ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ และการให้บริการเข้าชมโครงการที่อยู่อาศัยแบบ Virtual viewing ที่นาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) มาช่วยอานวยความสะดวกให้ผู้เข้าชมโครงการ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย ที่อยู่อาศัย ท่ามกลางข้อจากัดในการเข้าชมโครงการในช่วงที่การแพร่ระบาดเป็นไปอย่างรุนแรง โดยปัจจุบันเทคโนโลยี AR และ VR กลายเป็นบริการพื้นฐานที่โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะมีไว้เพื่ออานวยความสะดวกสาหรับผู้เข้าชมโครงการ ซึ่งสามารถช่วยกระตุ้นยอดขายที่อยู่อาศัยได้บางส่วน โดยตลาดที่อยู่อาศัยยังเผชิญแรงกดดันหลักจากกาลังซื้อ ที่หดตัวลงไปตามภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก

ทั้งนี้ EIC มองว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยาวนาน และยังไม่มีแนวโน้มที่จะสิ้นสุดลง ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป โดยเกิดพฤติกรรมที่เป็น New normal อย่างแนวโน้มที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ภายในที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทั้ง Work from home และการเรียนออนไลน์ ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยให้ความสาคัญกับความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงานภายในที่อยู่อาศัยมากขึ้น โดยเทคโนโลยีสมาร์ตโฮม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ ระบบอัตโนมัติ การสั่งการด้วยเสียง การควบคุมระบบต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์หลากหลายชนิดได้ จะเข้ามามีบทบาทตอบโจทย์การอยู่อาศัย ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการประหยัดพลังงาน สอดคล้องกับภาพที่สมาร์ตโฮมได้กลายมาเป็นจุดขายสาคัญที่ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยต่างแข่งขันกันนาเสนอในการขายโครงการที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ การรักษาสุขอนามัย ที่ทาให้ผู้คนลดการสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ นอกที่อยู่อาศัย และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล จะส่งผลให้รูปแบบพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่อยู่อาศัยมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยจะมีการนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสัมผัสพื้นผิว อย่างระบบเซนเซอร์ และระบบอัตโนมัติ มาใช้ในพื้นที่ส่วนกลางมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มการที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ภายในที่อยู่อาศัยมากขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้มีจานวนผู้อยู่อาศัยมาใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มมากขึ้น เช่น Co-working space ห้องประชุม ฟิตเนส ผู้ประกอบการจึงมีแนวโน้มนาระบบการจอง และระบบการตรวจนับจานวนผู้ใช้บริการ มาใช้ในพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อช่วยลดความหนาแน่นของผู้ใช้บริการด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อจากัดของการทาธุรกรรมด้านที่อยู่อาศัยผ่านทางออนไลน์ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฎระเบียบ ซึ่งหากมีการผ่อนคลายกฎระเบียบในการทาธุรกรรมมากขึ้น ก็จะยิ่งหนุนให้การทาธุรกรรมด้านที่อยู่อาศัยมีแนวโน้ม ที่จะเป็นการทาธุรกรรมผ่านทางออนไลน์แบบ End-to-end transaction ผ่าน Proptech ได้ในระยะข้างหน้า

อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : TerraBKK.com – https://www.terrabkk.com/news/201274

Share this article:
เรื่องที่คุณอาจจะสนใจ
ยอดนิยม

what you need to know

in your inbox every morning